มาตรฐานการเข้ารหัสขั้นสูง (AES)

Advanced Encryption Standard (AES) เป็นมาตรฐานการเข้ารหัสคีย์แบบสมมาตรที่ใช้เพื่อปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อน สถาบันมาตรฐานและเทคโนโลยีแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (NIST) นำมาใช้ในปี 2545 ให้เป็นมาตรฐานการประมวลผลข้อมูลของรัฐบาลกลาง (FIPS) และได้รับการยอมรับว่าเป็นมาตรฐานสากลสำหรับการเข้ารหัสข้อมูลที่ปลอดภัย

การเข้ารหัส AES คือการเข้ารหัสแบบบล็อกที่ใช้บล็อกแบบ 128 บิต, 192 บิต หรือ 256 บิตสำหรับการเข้ารหัสและถอดรหัส เป็นอัลกอริธึมที่ใช้กันทั่วไปสำหรับการเข้ารหัสข้อมูลเพื่อการจัดเก็บและส่งข้อมูลที่เป็นความลับผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต AES ใช้คีย์ลับที่มีความยาว 56, 128, 192 หรือ 256 บิต ซึ่งสามารถได้มาจากรหัสผ่านหรือสร้างแบบสุ่ม AES รองรับคีย์สามขนาด ซึ่งหมายความว่าสามารถใช้คีย์ 256 บิตสำหรับการเข้ารหัส ซึ่งจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความแข็งแกร่งได้

ข้อดีของ AES คือเป็นมาตรฐานการเข้ารหัสที่เชื่อถือได้และปลอดภัย และใช้งานโดยองค์กรระดับชาติและนานาชาติ และในการใช้งานด้านธนาคาร การเงิน และการทหาร อุตสาหกรรมใช้อัลกอริทึม AES เป็นหลักในฐานะระบบการเข้ารหัสในอุดมคติ เนื่องจากมีโครงสร้างคีย์แบบสมมาตร ซึ่งหมายความว่าคีย์เดียวกันนั้นใช้สำหรับทั้งกระบวนการเข้ารหัสและถอดรหัส เนื่องจากแต่ละคีย์มีเอกลักษณ์เฉพาะ จึงลดโอกาสที่ข้อมูลจะเสี่ยงต่อการเข้าถึงที่ผิดกฎหมาย

ในขณะเดียวกัน AES ยังใช้งานง่ายและนำไปปฏิบัติได้อย่างตรงไปตรงมา มันรวดเร็วและมีน้ำหนักเบา และทำงานได้ดีกับทั้งระบบที่ใช้ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ตัวอย่างเช่น โดยทั่วไปจะใช้ในโปรโตคอลไร้สาย เช่น WPA, Wi-Fi และบลูทูธ รวมถึงโปรโตคอลการถ่ายโอนไฟล์ที่ปลอดภัย

โดยสรุป ปัจจุบัน AES เป็นวิธีการเข้ารหัสที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพมากที่สุดที่ใช้เพื่อปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อน มีความน่าเชื่อถือ ใช้งานง่าย และพบได้ในการใช้งานนับไม่ถ้วนทั่วโลก

เลือกและซื้อพร็อกซี

ปรับแต่งแพ็คเกจพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์ของคุณได้อย่างง่ายดายด้วยแบบฟอร์มที่ใช้งานง่ายของเรา เลือกสถานที่ ปริมาณ และข้อกำหนดในการให้บริการเพื่อดูราคาแพ็กเกจทันทีและต้นทุนต่อ IP เพลิดเพลินกับความยืดหยุ่นและความสะดวกสบายสำหรับกิจกรรมออนไลน์ของคุณ

เลือกแพ็คเกจพร็อกซีของคุณ

เลือกและซื้อพร็อกซี