Machine-to-Machine (M2M) เป็นวิธีการสื่อสารอัตโนมัติโดยที่เครื่องตั้งแต่สองเครื่องขึ้นไปสื่อสารกันโดยตรงเพื่อควบคุมอุปกรณ์หรือกระบวนการ เทคโนโลยีนี้ช่วยให้เครื่องจักรสามารถสื่อสารกับเครื่องจักร ระบบ และเครือข่ายอื่นๆ โดยไม่จำเป็นต้องมีการแทรกแซงด้วยตนเอง
เทคโนโลยี M2M ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยหลายอุตสาหกรรมและองค์กรต่างๆ มองว่าเป็นวิธีการสื่อสารและการควบคุมที่คุ้มค่า ด้วยการแทนที่กระบวนการแบบแมนนวลด้วยการสื่อสาร M2M แบบอัตโนมัติ บริษัทต่างๆ จึงสามารถลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตได้ ตัวอย่างของแอปพลิเคชัน M2M ได้แก่ การติดตามทรัพย์สินระยะไกล การตรวจสอบและควบคุมอุปกรณ์อุตสาหกรรมและเชิงพาณิชย์แบบอัตโนมัติ และระบบกริดอัจฉริยะ
การพัฒนา M2M ได้รับการสนับสนุนโดยเทคโนโลยีการสื่อสารหลายอย่าง เช่น บลูทูธ, Wi-Fi, เครือข่ายเซลลูล่าร์, การสื่อสารผ่านดาวเทียม, RFID และอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT) เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยให้เครื่องจักรสามารถสื่อสารระหว่างกันเพื่อควบคุมกระบวนการและบริการได้ นอกจากนี้ M2M ยังให้การเข้าถึงข้อมูลแบบเรียลไทม์จากอุปกรณ์ ทำให้สามารถตรวจสอบการทำงานของเครื่องจักรและให้ข้อมูลอันมีค่าแก่ผู้ใช้
M2M ถูกนำมาใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม รวมถึงการผลิต การดูแลสุขภาพ การขนส่ง และพลังงาน ตัวอย่างหนึ่งของ M2M คือมิเตอร์อัจฉริยะ ซึ่งช่วยให้ผู้ให้บริการเรียกเก็บเงินจากผู้บริโภคตามการใช้งานจริงได้ อีกตัวอย่างหนึ่งคือระบบขนส่งอัจฉริยะ ซึ่งใช้ M2M เพื่อให้ข้อมูลแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับตำแหน่ง เส้นทาง ความเร็ว และตัวแปรอื่นๆ ของยานพาหนะ
M2M ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับธุรกิจที่ดำเนินธุรกิจในตลาดที่มีการแข่งขันสูงในปัจจุบัน ด้วยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี M2M บริษัทต่างๆ สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลและระบบอัตโนมัติเพื่อจัดการทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพิ่มการมองเห็นในการดำเนินงาน และปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า